ครูภณิดา ชูช่วยสุวรรณ ครูผู้สอนในรายวิชาสังคมศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านแหลมไทร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 2
โดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนด้วยหลักสูตรโครงงานนวัตกรรมจากประสบการณ์โลก (Phenomenal Based Learning)
การเรียนการสอนด้วยหลักสูตรโครงงานนวัตกรรมจากประสบการณ์โลก
(Phenomenal Based Learning) คือการใช้ประสบการณ์
หรือสถานการณ์จากชุมชนเป็นฐานในการเรียนรู้ ซึ่งการเรียนการสอนโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน
ต้องอาศัยความร่วมมือจากคนในชุมชนเข้ามาเติมเต็มความรู้กับนักเรียน นอกจากนั้นยังเกิดการบูรณาการองค์ความรู้กับครูวิชาอื่นที่มีความชำนาญเฉพาะทาง เช่น วิทยาศาสตร์
การงานอาชีพ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ ทำให้เกิดการประสานความร่วมมือเพื่อเป้าหมายการเรียนการสอนไปด้วยกัน
ปัจจัยที่สำคัญในการทำให้ ห้องเรียนธนาคารปูม้า สำเร็จเกิดขึ้นจากปัจจัยที่สำคัญ ประการแรก คือ “นักเรียน มีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้อยู่ในตัวทุกคน สิ่งนี้กระตุ้นให้นักเรียนเป็นนักคิดค้น ค้นหาคำตอบ ค้นหาวิธีการ เพื่อแก้ปัญหา ครูไม่มีการปิดกั้นกระบวนการคิด ให้นักเรียนฝึกคิดวิเคราะห์ ทำงานร่วมกัน กระบวนการนี้เกิดทักษะในศตวรรษที่ 21 ประการที่สอง ห้องเรียนธนาคารปูม้านี้ จะสำเร็จไม่ได้เลย ศาสตร์ความรู้เฉพาะทางนี้หากขาดความร่วมมือจากชุมชนที่เป็นผู้มอบศาสตร์ความรู้วิชาท้องทะเลเพื่อการเรียนรู้วิถีชีวิตปู ประการที่สาม บุคลากรในโรงเรียนที่ร่วมมือกันบูรณาการสาระวิชาการเพื่อเติมเต็ม ซึ่งไม่สามารถขาดความร่วมมือของใครคนใดคนหนึ่งได้ ต้องประสานการเรียนรู้ไปด้วยกัน” ซึ่งมีเป้าหมายการเรียนรู้นั้น คือต้องการให้นักเรียนมีจิตสำนึกรักและหวงแหนทรัพยากรในชุมชน นักเรียนสามารถเรียนรู้ว่าอะไรสำคัญ จำเป็นสำหรับชีวิตและชุมชน โดยที่สามารถเชิญชวนคนในชุมชนให้เข้ามามีส่วนร่วมในสิ่งที่นักเรียนคิดและทำได้
กระบวนการจัดการเรียนการสอ
6 แผนการเรียนรู้โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน
เริ่มต้นด้วยการลดบทบาทของครูเอง ด้วยการพูดการอธิบาย
ให้น้อยลงเปลี่ยนตนเองเป็นครูโค้ช เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้
เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนพูด ได้นำเสนอ ได้แสดงความคิดเห็น
ให้นักเรียนคิดแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในชุมชนและสร้างนวัตกรรมได้ด้วยกระบวนการ IP2 Innovation = ให้นักเรียนคิดค้นนวัตกรรม Project-based
Learning = การเรียนรู้ผ่านโครงงานเป็นฐาน และ Phenomenon-based
learning = การเรียนรู้โดยใช้ปรากฏการณ์เป็นฐานในการเรียนรู้ การออกแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้
Phenomenon-based learning + Community Innovation Project
: CIP โครงงานนวัตกรรมเพื่อชุมชน
(นวัตกรรมของมูลนิธิเพื่อทักษะแห่งอนาคต) โดย CIP มีกระบวนการทั้งหมด 6 ขั้นตอน
และได้นำมาออกแบบการจัดการเรียนรู้ที่เป็นองค์ความรู้ของโรงเรียนบ้านแหลมไทรที่ชื่อว่า หน่วยการเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมกายภาพในจังหวัด โดยประกอบด้วย 6 แผน
แผนที่ 1 แหลมไทรอะไรดี ?
ประเมินทักษะการคิดของผู้เรียน
นักเรียนดูภาพถ่ายสถานที่ต่าง ๆ ของพื้นที่บ้านแหลมไทร และบ้านทุ่งทอง ตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นพื้นที่ในท้องถิ่นของนักเรียน และร่วมกันอภิปรายสิ่งแวดล้อมทางกายภาพชุมชน ในหัวข้อ “แหลมไทร อะไรดี” เพื่อหาเอกลักษณ์ของท้องถิ่นบ้านแหลมไทร โดยมีประเด็น ดังนี้ ลักษณะภูมิประเทศ ลักษณะภูมิอากาศ ป่าไม้หรือพืชพรรณที่พบ และสัตว์ที่พบ
แผนที่ 2 ตามมาจะพาไปล่องทะเล
การคิดประเด็นการเรียนรู้จากแรงบันดาลใจ
ครูหนิง พานักเรียนไปสำรวจบริบทชุมชน บ้านแหลมไทร และ บ้านทุ่งทอง
ที่มีสภาพแวดล้อมทางกายภาพเหมือนกันคืออยู่ในแหลมติดทะเลฝั่งอันดามัน
ประกอบอาชีพประมงท้องถิ่น
เพื่อให้เข้าใจลักษณะของโลกด้วยแผนที่ชุมชนดูภูมิศาสตร์เพื่อเชื่อมเข้าสู่วิชาสังคมศาสตร์
ถึงแม้นักเรียนจะอยู่ในชุมชนที่เป็นแหล่งประมงพื้นบ้าน
แต่เด็กบางคนไม่เคยเดินสำรวจชายหาดในชุมชนของตน
ครูหนิงจึงพาลงสำรวจพื้นที่ท่าเทียบเรือแหลมไทร
ดูธนาคารสาหร่ายพวงองุ่นของผู้ใหญ่บ้าน เพื่อสำรวจปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในชุมชน
เข้าสู่ขั้นคบคิด
·
อะไรคือของดีของแหลมไทร - ปูม้า
· ปัญหาที่นักเรียนพบระหว่างสำรวจพื้นที่ - ปูม้าลดจำนวนลง
แผนที่ 3 หนูน้อยนักอนุรักษ์ พิทักษ์พันธุ์ปูม้า
ร่วมมือกันเขียนแผน
นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์ว่าอะไรที่เป็นปัญหาของชุมชน
เพื่อนำมาวางแผนแก้ปัญหาตามวิธีการของตนเอง โดยขั้นตอนนี้ใช้เครื่องมือ FILA Map เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำไปสู่การออกแบบการแก้ปัญหา
F = Fact ข้อเท็จจริง เป็นที่มาของปัญหาซึ่งทุกคนพบว่า จำนวนปูม้าลดลง
I = Innovation นวัตกรรม ที่จะทำอย่างไรให้ปูม้าเพิ่มจำนวน
L = Learning ความรู้และทักษะที่ต้องใช้สร้างนวัตกรรม
A = Action Plan การวางแผนกระบวนการทำงาน
แผนที่ 4 คิดไม่ OUT เราทำได้
การจัดการเรียนรู้
เป็นการจัดการเรียนรู้ด้วยการลงมือทำ บูรณาการรายวิชาสังคมศึกษา
วิทยาศาสตร์ และการงานอาชีพ เพื่อนำไปใช้ในการประดิษฐ์นวัตกรรมพลังงานโซลาเซลล์
ที่จะใช้แก้ปัญหาต้นทุนพลังงานไฟฟ้า โดยอาศัยความร่วมมือของครู 2 ท่าน 1) ครูฐิตินันท์ อ่อนรู้ที่ กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี 2) ครูกนกวรรณ นาศร กลุ่มสาระวิชาสังคมศึกษา มาช่วยเติมเต็ม
ผลที่ได้นักเรียนเกิดกระบวนการทำงาน การจัดการ และแบ่งหน้าที่
1. ชุดอนุบาลพันธุ์ปูม้าพลังงานแสงอาทิตย์
2. ดูแลธนาคารปูม้าของชุมชน
3. นักอนุบาลปูม้า
โดยภาชนะจากวัสดุในชุมชน เช่นกระป๋อง
4. ออกแบบสื่อประชาสัมพันธ์การอนุรักษ์ปูเพื่อเผยแพร่ให้ชุมชน
แผนที่ 5 ถอดบทเรียน เปลี่ยนชีวิต
ผู้เรียนประเมินตนเอง
โดยใช้วิธีการถอดบทเรียนตามหลัก SDGs การพัฒนาที่ยั่งยืน
หลังจากที่กระบวนการทำงานแล้ว
จึงให้นักเรียนประเมินตนเองว่าสิ่งที่ได้เรียนรู้และลงปฏิบัติใน หลักสูตรโครงงานนวัตกรรมจากประสบการณ์โลก
(Phenomenal Based Learning: IP2) มีประโยชน์ต่อโลกและสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนจาก 17 เป้าหมาย ข้อใดบ้าง
เป้าหมายที่ 1 ยุติความยากจนทุกรูปแบบในทุกที่ -
เมื่อปริมาณปูม้าเพิ่มขึ้นทำให้ชาวบ้านจับปูม้าได้มากขึ้น
เป้าหมายที่ 2 ยุติความหิวโหย
บรรลุความมั่นคงทางอาหาร และยกระดับโภชนาการ และส่งเสริมเกษตรกรรมที่ยั่งยืน
- ปูม้าเพิ่มขึ้นแหล่งอาหารมากขึ้น
เป้าหมายที่ 7 พลังงานสะอาดที่ทุกคนเข้าถึง
- ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ที่เป็นพลังงานสะอาด
เป้าหมายที่ 14 อนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากมหาสมุทร ทะเลและทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน - ลดการบริโภคปูม้าไข่ นำปูม้าไข่มาอนุบาลเพื่อเพิ่มปริมาณปูกลับคืนสู่ท้องทะเล
แผนที่ 6 สู่ชุมชน อุดมสุข
เน้น ย้ำ ซ้ำ ทวน ชวนคิดต่อยอด
นำองค์ความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นนำเผยแพร่กับคนในชุมชน เพื่อสร้างความตระหนักรู้ ให้ทุกคนมองเห็นปัญหาร่วมกัน เพื่อกระตุ้นให้คนในชุมชนเกิดการหวงแหน พร้อมใจร่วมมือกันแก้ปัญหาเพื่อรักษาทรัพยากรทางเศรษฐกิจที่มีมูลค่าของคนในชุมชนอย่างยั่งยืน